วันที่ 11 ส.ค. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ก.ค.ศ. เมื่อเร็ว ๆ นี้ เห็นชอบจัดสรรอัตราว่างจากการเกษียณอายุราชการ วันที่ 30 ก.ย.2563 สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานปลัดศธ. และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) รวม 23,321 อัตรา
นายณัฏฐพล กล่าวต่อว่า แบ่งเป็น สพฐ. 21,984 อัตรา, สำนักงานปลัดศธ. 254 อัตรา โดยให้สงวนตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) จำนวน 2 อัตรา เนื่องจากอยู่ระหว่างการทบทวนแนวทางการจัดสรรอัตราว่าง จากผลการเกษียณอายุราชการฯ ตำแหน่งประเภทอำนวยการ ของคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) และสอศ. 1,083 อัตรา
นายณัฏฐพล กล่าวอีกว่า จากนี้ทางส่วนราชการจะไปวางแผนจัดสรรให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน สามารถเรียกบรรจุหรือรับย้ายได้ภายในวันที่ 1 ต.ค.นี้ ทั้งนี้ ให้ สพฐ. สอศ. และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) สงวนอัตราตำแหน่งครูผู้ช่วยที่ได้รับจากอัตราเกษียณฯ รวม 5,641 อัตรา เพื่อรองรับการบรรจุบุคคลตามโครงการผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)
นายณัฏฐพล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบร่างหลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาผู้ได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งรองศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) และ ศธจ. โดยให้สำนักงานปลัดศธ.เป็นผู้ดำเนินการพัฒนา และจัดทำรายละเอียดหลักสูตร โดยรองศธจ.ต้องได้รับการพัฒนา ไม่น้อยกว่า 35 วัน ศธจ.ไม่น้อยกว่า 30 วัน ขอบข่ายการพัฒนา 3 ส่วนการเสริมสร้างสมรรถนะ การเรียนรู้ในสภาพจริง และการรายงานผลการเรียนรู้ และการนำเสนอแผนกลยุทธ์การพัฒนาการศึกษาในจังหวัด
ด้าน นายอัมพร พินะสา เลขาธิการก.ค.ศ. กล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบเห็นชอบให้มีการจ้างผู้พิการ ให้ทำงานในสัดส่วน 1:100 ตามนโยบายและหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ในตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) ในสำนักงานศธจ. 5 อัตรา ขณะเดียวกันที่ประชุมยังอนุมัติหลักเกณฑ์ให้ข้าราชการครู ได้รับเงินเดือนขั้นทะลุ กรณีที่เงินเดือนเหลื่อมไปขั้นสูงกว่า จากเดิมจะอนุมัติเงินเดือนทะลุได้ สำหรับผู้ที่ได้รับเงินเดือนขั้นสูงและได้รับการเลื่อนเงินเดือนในเดือนเมษายน